คาร์เตอร์ (Carter) ภาพยนตร์เรียลไทม์แนวบู๊แอคชั่น สัญชาติเกาหลี จาก Netflix ที่บู๊ระห่ำแบบเลือดท่วมจอจนคนดูเกือบลืมหายใจ กำกับโดย จองบยองกิล (Byung-gil Jung) ที่เคยมีชื่อเสียงในการกำกับภาพยนตร์เรื่อง The Villainess (2017) และ Action Boys (2008) มาแล้ว ซึ่งเขาเปรียบเทียบภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเป็นเหมือนการใช้พู่กันวาดภาพ ที่ทุกฝีแปรงต้องตั้งใจอย่างดีก่อนลงมือ และได้ จูวอน (Joo Won) มาเป็นนักแสดงนำ รับบทเป็นคาร์เตอร์สายลับที่สูญเสียความทรงจำแต่ต้องมารับทำภารกิจเสี่ยงตาย โดยมีเสียงลึกลับในหัวคอยบอกว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง สำหรับในเรื่องนี้จูวอนก็ทุ่มเทไม่ใช่น้อย เพราะเขาต้องฟิตหุ่น เพิ่มน้ำหนักถึง 7 กิโลกรัม และสร้างกล้ามเนื้อให้ดูล่ำ นอกจากนี้ยังต้องฝึกทักษะการบู๊แอ็คชั่นเป็นเวลา 4 เดือนก่อนการถ่ายทำอีกด้วย เพื่อให้ออกมาดูเหมือนสายลับที่มีฝีมือเก่งฉกาจจนหาตัวจับยากจริงๆ
ภาพจาก netflix-news.atsit.in
โดยเนื้อเรื่องมีความยาวประมาณ 133 นาที เริ่มต้นจะเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งเขาตื่นขึ้นในโรงแรมอย่างงงๆ และจำไม่ได้ว่าตนเองเป็นใคร แต่จะมีเสียงในหัวที่บอกว่าเขาชื่อ “คาร์เตอร์” เขาตื่นขึ้นมาเพราะถูกเจ้าหน้าที่ซีไอเอบุกเข้ามาในห้องเพื่อจับกุม และพบว่าภายในห้องมีเลือดกองใหญ่เปื้อนอยู่ และเสียงในหัวสั่งให้เขาหนี เขาจำเป็นต้องทำตามอย่างไม่มีทางเลือก และเขายังต้องรับทำภารกิจสำคัญคือการชิงตัวเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีชื่อว่า จองฮานา (รับบทโดย คิมโบมิน) และนำตัวเธอไปส่งยังสถาบันวิจัยอาวุธชีวเคมีของเกาหลีเหนือ เพราะในตัวเธอมีแอนตี้บอดี้ที่สามารถนำมาผลิตเป็นยาต้านไวรัสที่กำลังเป็นโรคระบาดรุนแรงอยู่ในขณะนั้นได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้จองฮานาเป็นคนเดียวที่หายจากโรค โดยมี ดร.จองบยองโฮ (รับบทโดย จองแจยอง) ที่เป็นพ่อของเธอเป็นผู้รักษา และเหตุผลที่คาร์เตอร์ต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ก็เพราะว่าลูกสาวของเขากำลังป่วยใกล้ตายจากเชื้อไวรัสดังกล่าว และรอการช่วยเหลืออยู่ในเกาหลีเหนือ
ภาพจาก today.line.me
ใครชอบดูหนังบู๊แอ็คชั่นแบบเลือดสาดเต็มจอ และพระเอกเก่งแบบสุดๆ จนออกแนวโอเวอร์เรื่องนี้จะเหมาะมากสำหรับคุณ เพราะจะมีฉากบู๊ตั้งแต่เริ่มต้นเรื่องจนกระทั้งจบเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นหนังยังฉายแบบฉากต่อฉากในลักษณะ Non-Stop ไม่ต้องได้หยุดพักหายใจ การถ่ายทำจะใช้เทคนิคการเลื่อนกล้องที่แกว่งอย่างอิสระแบบ Handheld ตลอดเวลา ช่วยทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นและสมจริงมากยิ่งขึ้น เหมือนได้เข้าไปร่วมอยู่ในเหตุการณ์ แต่ใครไม่ชอบแนวนี้ก็อาจรู้สึกเวียนหัวได้เช่นกัน แต่ถ้าคุณชื่นชอบหนังแนวบู๊เอ็กชันรับรองได้ว่าหากมาดูคาร์เตอร์คุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
รีวิวหนังใหม่ รีวิวหนังฝรั่ง รีวิวหนังจีน รีวิวหนังเกาหลี รีวิวหนังไทย