ครั้งนี้เรามารีวิวหนังที่คนไทยทั้งประเทศต่างห้ความสนใจ นั่นก็คือหนัง “บุพเพสันนิวาสภาค 2” เป็นหนังที่ต่อเนื่องมาจากละคร ซึ่งตอนที่เป็นละครก็โด่งดังทั่วบ้านทั่วเมือง แม้จะนำมารีรันใหม่ก็ได้รับความนิยมไม่ตก หลายคนอยากรู้ว่าการเชื่อมต่อจากละครมายังโลกภาพยนตร์วจะตีความเรื่องราวนี้อย่างไร ซึ่งงานนี้ได้ผู้กำกับอย่าง อดิสรณ์ ตรีศิริเกษม ที่กลับมากำกับภาพยนตร์อีกครั้ง
หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ ภาพรวมของหนังเราสามารถสนุกไปกับหนังได้ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งหนังเรื่องนี้มีเอนเครดิต 1 ตัว ซึ่งเมื่อดูหนังจบแล้วอย่าเพิ่งลุกออกจากโรงหนัง เพราะในช่วงท้ายจะมีหารพูดถึงเรื่องราวที่เชื่อมต่อไปในอนาคตของหนังเรื่องนี้ ซึ่งความยาวของหนัง 2 ชั่วโมงกว่าๆถือได้ว่ากำลังพอเหมาะพอดี ความเชื่อมโยงจากละครก็เรียกได้ว่าสร้างความเซอร์ไพร์สให้กับคนดูหลายจุด เรียกว่าคิดมาหลายมุมมาก และคิดมาดีด้วย
หากพูดถึงเรื่องราวในการนำเสนอให้คะแนน 10 เต็ม10 ไปเลย ซึ่งทำให้เพลิดเพลินไปกับการชม ถ้าตัดเรื่อง CG ตัดเรื่องบทในบางจุดออกไป เรียกว่าดูแล้วต้องเดินยิ้มออกมา และไม่มีช่วงเวลาไหนที่ทำให้เรารู้สึกน่าเบื่อเลย พูดง่ายๆคือถ้าคนทั่วไปไปดูหนังเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ต้องชอบมากแน่นอน และหนังเรื่องนี้รายได้ พันล้านในประเทศเราไม่ยาก เพราะทั้งด้วยกระแส ตัวนักแสดงที่หลายคนชื่นชอบ และมานจังหวะที่ถูกที่ถูกเวลา เพราะเป็นวันหยุดยาวหลายๆคนต่างพาครอบครัวไปชมหนังเรื่องนี้ ทำให้ในโรงพนังแน่นไปด้วยผู้ชม บรรยากาศในโรงทุกคนต่างหัวเราะ ทุกคนต่างสนุกเพลิดเพลินไปกับหนัง ทำให้คนไทยเรารู้สึกมีความสุขที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ และอิ่มเอมไปกับคู่พระหนังที่ชื่นชอบ
สิ่งที่ชอบมากๆคืองานภาพที่สวยมาก แต่ถ้าเป็น CG บางจุดก็ยังมีลอยๆอยู่ หรือบางจุดที่ยังไม่เนียนเท่าไหร่ แต่เนื้อเรื่อง ความสนุกเพลิดเพลินทำให้ลืมจุดบกพร่องเล็กๆน้อยเหล่านี้ไปหมด ส่วนการจัดแสงสีและภาพต่างๆ ต้องยกนิ้วให้ รวมถึงเรื่อง เสื้อผ้าของแต่ละตัวละครเรียกว่าจัดเข้ากับยุคสมัยได้เป็นอย่างดี โดยหนังได้เล่าเรื่องในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ในส่วนของประวัติศาสตร์ คนที่เข้าไปดูได้รับความรู้อย่างมาก ยิ่งใครที่มีพื้นฐานความรู้ด้านประวัติศาสตร์ขิงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยแล้ว เชื่อว่าจะรู้สึกอินไปกับหนังมากขึ้น แถมเราได้เห็นภาพของประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น
สำหรับเรื่องราวของนักแสดง พระเอกและนางเอกเล่นดี เหมือนมาตรฐานของละครได้อย่างดีจนจบเรื่อง และในส่วนของนักแสดงสมทบก็ทำได้ดีมากๆ
หากจะให้คะแนนหนังเรื่องนี้ ขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน
ส่วนแรกพูดแทนคนดูทั่วปี่นานๆทีจะไปดูหนัง และตามมาจากละคร ต้องบอกว่าทุกคนต้องชอบเรื่องราวที่นำเสนออย่างแน่นอน จึงให้คะแนน 9.9 เต็ม 10
ส่วนที่2 พูดในเชิงของนักวิจารณ์หนังหนังเรื่องนี้มีหลายจุดที่ต้องหักคะแนนจึงคะแนน 7.5 เต็ม 10
สรุปภาพรวมต่างๆ ไอเดียที่เกิดขึ้นในหนังดีหมด ดูแล้วบันเทิง เพลิดเพลินมากๆ สามารถขำ ลุ้น เพลิดเพลินไปตลอดเวลา ใครที่เป็นแฟนละครก็จะได้เห็นมีตัวละครทางโทรทัศน์มาปรากฏในหนังให้หายคิดถึงอีกด้วย